เครื่องบินลงจอดฉุกเฉิน หลังจากที่ แมว บุกเข้าไปในห้องควบคุม สร้างความปั่นป่วน จนกัปตันต้องหันหัวเครื่องบินกลับ แมว – เมื่อวันที่ 2 มีนาคม สำนักข่าว นิวซีแลนด์เฮรัลด์ รายงานว่า เครื่องบินผู้โดยสารของสายการบินซูดานต้องทำการลงจอดฉุกเฉิน หลังจากที่แมวจรจัดได้ทำการบุกห้องควบคุมและจู่โจมใส่นักบิน ขณะที่เครื่องบินกำลังเดินทางกรุงโดฮา เมืองหลวงของประเทศกาตาร์
ซึ่งเหล่าลูกเรือพยายามจับแมวตัวนี้ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้กัปตันตัดสินใจหันเครื่องกลับเพื่อความปลอดภัย
โดยสำนักข่าวท้องถิ่นคาดว่าเจ้าเหมียวอาจปีนเข้าไปในเครื่องขณะที่เครื่องบินกำลังจอดไว้ในอู่เครื่องบิน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้น เพราะหากย้อนกลับไปในปี 2555 เที่ยวบินของแอร์แคนาดาก็ประสบปัญหาแบบเดียวกัน เมื่อแมวหลุดเข้าไปในห้องบังคับ ส่งผลให้การขึ้นบินล่าช้า
โดยกรณีเมื่อปี 2555 นั้นแมวของผู้โดยสารหลุดออกจากกรง และเข้าไปซ่อนในบริเวณสายไฟในห้องบังคับด้วยความหวาดกลัว ซึ่งทางสายการบินตัดสินใจนำผู้โดยสารลงจากเครื่อง เพื่อช่วยเหลือแมวตัวดังกล่าวออกมาได้อย่างปลอดภัย
สถานการณ์การ ชุมนุมเมียนมา ในวันนี้ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ศพ หลังเจ้าหน้าที่เปิดฉากยิงผู้ชุมนุม ชุมนุมเมียนมาวันนี้ – เมื่อวันที่ 3 มีนาคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยได้เปิดฉากยิงใส่ผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในหลายพื้นที่ของประเทศ หลังจากที่กองทัพได้โค่นรัฐบาลของนาง อองซานซูจี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งเกิดขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่แพทย์ในพื้นที่ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ว่า เจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และ กระสุนจริงใส่ผู้ชุมนุม จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แพทย์ยังเปิดเผยอีกว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ศพ จากการสลายการชุมนุม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมขยับเพิ่มไปอยู่ที่ 33 ศพ
ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ หรือเดือนที่ผ่านมานั้นกองทัพได้ทำการก่อรัฐประหารพร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้
ทั้งนี้ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ไม่เคยแสดงหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่ามีการโกงการเลือกตั้งขึ้น ซึ่งนอกจากผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตแล้ว ทางกองทัพยังได้จับกุมประชาชนรวมถึงนักข่าวเป็นจำนวนมาก โดย สมาคมให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) ระบุว่ามีผู้ถูกจับกุมแล้วกว่า 1,200 คน และยังมีผู้ถูกคุมขังมากกว่า 900 คน
นอร์เวย์ จัดตั้งทีมสอบ คนชราตายหลังฉีดวัคซีนโควิด
นอร์เวย์ เตรียมจัดตั้งทีมสอบสวน แก้ปริศนา หลัง คนชราตายหลังฉีดวัคซีนโควิด คาดเป็นผลพวงมาจากผลข้างเคียงวัคซีน วัคซีนโควิด – เมื่อวันที่ 2 มีนาคม สำนักข่าว บลูมเบิล์ก รายงานว่า ทางการนอร์เวย์ได้จัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง หลังจากมีกลุ่มคนชรา 102 คน เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19
โดยหน่วยงานด้านยานอร์เวย์ระบุว่าผู้เสียชีวิตมีอายุเฉลี่ย 87 ปี และส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวและมีร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่ ผลข้างเคียงจากฉีดวัคซีนเช่น ไข้ หรือ อาการคลื่นไส้จะไปกระตุ้นโรคประจำตัวของผู้รับวัคซีน
คณะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกิจจะให้คำประเมินอิสระว่า การเสียชีวิตเกี่ยวข้องกับโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งรวมแล้วครอบคลุมผู้อยู่อาศัยตามบ้านพักคนชราทั้งหลายราวๆ 40,000 คน
คาดว่าผลการสำเร็จจะเสร็จสิ้นใช่วงก่อนเทศกาลอีสเตอร์ หรือช่วงวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน โดยการพบคนชราที่เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนในประเทศนอร์เวย์นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งย้อนกลับไปในช่วงเวลาดังกล่าว ทางการนอร์เวย์ได้ตั้งข้อสันนิษฐานแบบเดียวกันกับปัจจุบันที่ระบุว่า อาการไข้ หรือ อาการคลื่นไส้จะไปกระตุ้นโรคประจำตัวของผู้รับวัคซีนได้
ชายจีนถูกซ้อม ใน อังกฤษ หลังมีปากเสียงกับชายผิวขาวสี่คน เผยขณะที่ถูกทำร้ายร่างกาย ผู้ก่อเหตุตะโกนเรียกตนว่า “ไวรัสจีน” เมื่อวันที่ 3 มีนาคม สำนักข่าว SCMP รายงานว่า นาย เป๋ง หว่าง ชายจีนวัย 37 ปีที่สอนการจัดการธุรกิจประจำมหาวิทยาลัยเซาธ์แฮมป์ตัน ประเทศอังกฤษ ถูกทำร้ายร่างกายขณะวิ่งจ๊อกกิ่งอยู่บริเวณหน้าบ้านจนได้รับบาดเจ็บหนัก เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยผู้ได้รับบาดเจ็บเล่าว่า ในขณะที่เขากำลังออกกำลังกาย ชายผิวขาวสี่คนที่มีอายุราวๆ 20-25 ปีได้ตะโกนด่าทอเขา ซึ่งนาย หว่าง ก็ได้ตะโกนตอบโต้ ซึ่งผู้ตะโกนด่าเขาได้ขับรถออกไปก่อนจะวนกลับมาและรุมทำร้าเยขา จนทำให้เลือดกำเดาออก พร้อมมีรอยช้ำที่แขนและหน้า ซึ่งในขณะที่ชายจีนวัย 37 ปีถูกทำร้ายร่างกาย ผู้ก่อเหตุได้ตะโกนว่า “ไวรัสจีนออกไปจากประเทศซะ”
พลเมืองดีได้เรียกรถพยาบาล และได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 ราย นายหว่างได้เล่าต่อว่า ชาวอังกฤษมีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่เขาเพิ่งเดินทางมาถึงประเทศอังกฤษใหม่ๆ โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ เบร็กซิท (Brexit) และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมบอกต่ออีกว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ต้องกังวลเลยว่าเขาจะถูกทำร้ายร่างกาย
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น