ด่วน จระเข้แสดงโชว์ หลุดลงแม่น้ำปิง ลำตัวยาวกว่า 2 เมตร หลุดลงแม่น้ำปิง เจ้าหน้าที่เร่งค้นหา เจ้าของเล่านาทีหลุดได้ยินเสียงหมาเห่าตอนตี 3 ก่อนไปแดูอีกทีไม่เจอไอ้โขงแล้ว รายงานเหตุจระเข้ที่ใช้สำหรับฝึกการแสดงโชว์หลุดลงแม่น้ำปิง บริเวณวัดหูกวาง ต.หูกวาง อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อคืนวันที่ 16 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา โดยจระเข้ตัวดังกล่าวเจ้าของเพิ่งซื้อมา มีขนาดตัวความยาว 2 เมตร
เจ้าของจระเข้ เล่าว่า เหตุการณ์ไอ้เคี่ยมลูกรักที่เลี้ยงไว้ เวลา 03.00 น. ของวันที่ 17 ก.พ.
ได้ยินเสียงสุนัขเห่า จึงมาดูพบว่าจระเข้ที่ฝึกการแสดงโชว์ได้หลุดลงไปในแม่น้ำปิงแล้ว โดยอยู่ห่างจากวัดหูกวาง ต.หูกวาง อ.บรรพตพิสัย ประมาณ 100 เมตร สำหรับความคืบหน้าในการติดตามเจ้าสัตว์เลื้อยคลาน ทางตำรวจ สภ.บรรพตพิสัย ได้เร่งประสานงานชุดล่าหน่วยไกรทองออกติดตามแล้ว แต่ชาวบ้านอาศัยอยู่ริมน้ำและทราบข่าวต่างหวาดผวาไม่มีใครกล้าลงน้ำ.
โฆษกสำนักนายกเผย ประยุทธ์ พึงพอใจหลัง ตัวเลขการลงทุน รวม 1.12 แสนล้าน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของต่างชาติต่อประเทศไทย นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยเรื่องน่ายินดี ตัวเลขการลงทุนของชาวต่างชาติในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ตลอด 11 เดือนของปี 2565 (มกราคม – พฤศจิกายน) มูลค่ารวมกว่า 112,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ถึงร้อยละ 74 เกิดการจ้างงานคนไทยกว่า 5,000 คน
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่นักลงทุนต่างชาติยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ขานรับและดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลอย่างแข็งขัน ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณบวกต่อเนื่อง ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนชาวต่างชาติ และสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่คนไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2565 กระทรวงพาณิชย์ได้อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 530 ราย โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ญี่ปุ่น 137 ราย (ร้อยละ 26) เงินลงทุน 39,000 ล้านบาท 2) สิงคโปร์ 85 ราย (ร้อยละ 16) เงินลงทุน 11,999 ล้านบาท และ 3) สหรัฐอเมริกา 70 ราย (ร้อยละ 13) เงินลงทุน 3,343 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ได้รับอนุญาตฯ ส่วนใหญ่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ
“นายกรัฐมนตรีย้ำการทำงานของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลดำเนินการวางรากฐานการพัฒนา สร้างความเชื่อมั่น อำนวยความสะดวกให้แก่การค้าการลงทุน ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาค ซึ่งสร้างโอกาส เพิ่มปัจจัยบวกให้การตัดสินใจของนักลงทุน นโยบายที่ดำเนินมาอย่างเหมาะสม ถูกช่วงเวลา เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง สร้างงาน สร้างรายได้แก่คนไทย ทั้งนี้ สอดคล้องกับรายงานขององค์กรต่าง ๆ ทั้ง World Bank IMF Fitch Ratings ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวได้ดี และมีการฟื้นตัวเร็วเกินคาด” นายอนุชาฯ กล่าว
‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ หลบหนีตอนขึ้นศาล ตำรวจตามจับได้แล้ว
ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ล่าสุด หลบหนีตอนขึ้นศาล หลังมีคนพาช่วยหนีด้วยการนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยน พร้อมอุปกรณ์ปลดพันธนาการ ตำรวจตามจับได้แล้ว ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดพิจารณาคดี ประสิทธิ์ เจียวก๊ก กับพวกรวม 9 ราย ในฐานความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน , พ.ร.บคอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีที่ หลอกให้ร่วมลงทุนซื้อคูปองทอง ลงทุนซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยว และระบบสหกรณ์ออมทรัพย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างพิจารณาคดีนายประสิทธิ์ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ โดยในห้องน้ำมีผู้นำเสื้อผ้าชุดลำลอง พร้อมกุญเเจไขเครื่องพันธนาการมาให้นายประสิทธิ์เปลี่ยนเพื่อหลบหนี ทว่าเจ้าพนักงานตำรวจศาลสามารถจับตัวนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ขณะนี้ศาลกำลังสอบสวนภาพจากกล้องวงจรปิดว่าใครเป็นผู้ช่วยเหลือนายประสิทธิ์หลบหนี
ก่อนหน้านี้ ตำรวจกองปราบปราม เปิดปฏิบัติการ “ปิดเกมส์คนเหนือโลก” โดยเปิดโปงว่า ประสิทธิ์ เจียวก๊ก ได้เปิดบริษัทเครือข่ายเพื่อหลอกเงินจากนักลงทุนหลายรูปแบบ อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง ตัวอย่างเช่น มีการขายแพ็คเกจท่องเที่ยว ในโครงการ”เที่ยวเพื่อชาติ” ราคา 50,000 บาท โดยอ้างว่า สามารถใช้จองห้องโรงแรม เข้าสปา ซื้ออาหารบุฟเฟ่ต์ได้เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท เป็นต้น โดย พ.ต.อ. นิตติโชติ เพ็ญจำรัส ระบุว่ารูปแบบการโกงของแก๊งนี้ “เป็นการเปิดบริษัทท่องเที่ยว ชักชวนผู้เสียหายซื้อแพ็คเกจทัวร์ แต่สุดท้ายไม่มีการจัดท่องเที่ยวจริง”
และยังหลอกเงินชาวบ้านมาลงทุนในรูปแบบสหกรณ์อ้างว่าจะได้เงินปันผลสูง แต่สุดท้ายไม่ได้ทั้งเงินปันผล และเงินก้อนที่ฝากไว้ไปขอคืนก็ไม่ได้คืน แถมยังขู่กลับด้วยว่า ถ้าใครไปแจ้งความจะถูกระงับบัญชี และฟ้อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทำให้มีประชาชนสูญหายรวมหลายร้อยล้านบาท
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการพบว่า เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมในการตรวจสอบเครื่องพันธนาการ การดูแล การเก็บรักษากุญแจ รวมถึงการตรวจค้นร่างกายผู้ต้องขังก่อนออกภายนอกเรือนจำเพื่อนำไปขึ้นศาล
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> ดัมมี่ออนไลน์ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ufabet 2023 แทงบอลออนไลน์ สล็อตแตกง่าย